การดูแลเส้นผม จากธรรมชาติ วิธีอื่นๆ



                    การดูแลเส้นผม หลากหลายวิธี

โมลาส น้ำเชื่อมป้องกันผมขาวก่อนวัย
    โมลาส หรือ Molasses เป็นน้ำเชื่อมที่ได้มาจากต้นอ้อย โดยการรีดน้ำอ้อยออกจากต้นแล้วนำไปต้ม ปล่อยให้ระเหยเหลือไว้แต่ผลึกใสของน้ำอ้อย ท้ายที่สุดก็ได้โมลาศซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหาร และมีซูโครสน้อยกว่าน้ำตาลทั่วไป
สารอาหารที่มีอยู่ในน้ำเชื่อมโมลาสประกอบด้วย แคลเซียม เหล็ก แมงกานีส โพแทสเซียม ทองแดง แมกนีเซียม โครเมียม และสังกะสี หากเปรียบเทียบแล้ว น้ำตาลขัดขาวจะไม่มีแร่ธาตุพวกนี้อยู่ แม้แต่น้อย
    ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่มากมาย ถึงกับมีการอ้างว่า แคลเซียมในโมลาส 1 ช้อนโต๊ะ มีปริมาณเท่ากับแคลเซียมในน้ำนม 1 แก้ว
ประโยชน์ของน้ำเชื่อมดมลาสต่อสุขภาพและความงาม
    การวิจัยในปัจจุบันพบว่า โมลาสมีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องขึ้นอยู่กับดินที่ใช้ปลูกอ้อยด้วย ประโยชน์ของโมลาสต่อสุขภาพมีดังนี้
ช่วยป้องกันผมขาวก่อนวัย ไซรีส สกอตต์ หรือ Cyril Scott ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการแห่งอังกฤษได้วิจัยพบว่า โมลาสช่วยคืนสีผมธรรมชาติและช่วยป้องกันผมหงอกก่อนวัยอย่างได้ผล
รักษาโรคไขข้อกระดูก เช่น โรครูมาตอยด์ โรคข้อกระดูกเสื่อม หรือ แม้แต่รักษาเส้นเลือดขอด
บรรเทาอาการภาวะโลหิตจาง เนื่องจากโมลาสอุดมด้วยธาตุเหล็กสูง จึงช่วยผลิตเม็ดเลือดแดงให้แก่ผู้ป่วย และยังเหมะกับสตรีที่ประจำเดือนมามาก
เป็นยาระบาย นักโภชนาการที่มีชื่อเสียงในอังกฤษ เกย์ลอดร์ด ฮาวเซอร์ พบว่าโมลาสเป็นยาระบายให้แก่ผู้ที่มีอาการท้องผูก
แมกนีเซียมในโมลาสช่วยลดอาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายขึ้น
วิธีการบริโภคและข้อควรระวังในการรับประทานโมลาส
    โภชนากรแนะนำให้รับประทานโมลาสในปริมาณที่พอเหมาะประมาณ วันละ 1 -3 ช้อนชา สำหรับเด็กควรลดปริมาณลงมาครึ่งหนึ่ง ผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับควรรับประทาน 1-2 ช้อนโต๊ะก่อนเข้านอนจะช่วยให้นอนหลับดีขึ้น สตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตรสามารถรับประทานได้โดยไม่เกิดอันตราย
    ข้อควรระวัง ไม่ควรบริโภคในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ท้องเสีย อีกทั้งอาจเป็นสาเหตุของโรคฟันผุได้ ดังนั้นหลังรับประทานโมลาสแล้วควรบ้วนปากหรือแปรงฟันเพื่อป้องกันฟันผุ สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานแล้วห้ามกินโมลาส เพราะจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
    ปัจจุบันโมลาสสามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าในรูปน้ำเชื่อม (มีลักษณะคล้ายน้ำผึ้ง มีสีน้ำตาลเข้มข้นเหนียว และในรูปแคปซูล เพื่อสะดวกแก่การบริโภค
บำรุงหนังศีรษะด้วยงา
งา เมล็ดธัญพืชเล็กๆ ที่มีประโยชน์มหาศาล ชาวเกาหลีและญี่ปุ่นนิยมนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงอาหารเพื่อให้มีกลิ่นหอม และมีความเชื่อว่ามีงาเป็นธัญพืชที่ทำให้อายุยืน และรักษาความเป็นหนุ่มเป็นสาวให้ยาวนาน
สารอาหารสำคัญในเมล็ดงาน
งาแบ่งเป็น 2 ชนิดคือ งาดำ ละงาขาว เป็นธัญพืชที่อุดมด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว 60% ได้แก่กรดโอเอลิก กรดไลโนเลอิก รวมทั้งวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆเช่นวิตามินบีรวม อี ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส ไอโอดีนและสังกะสี
คุณค่าทางยาของงา
    กรดไขมันไม่อิ่มตัว โอเลอิก และไลโนเลอิก ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดอุดตัน จากผลการวัจัย ดร. J.G. Vaughan แห่งสถาบัน King’s College London กล่าวว่างาประกอบด้วยแคลเซียม ซึ่งมีประโยชน์ต่อกระดูกและฟัน โดยเฉพาะผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน ส่วนธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุที่ช่วยผลิตเม็ดเลือดแดง บำรุงเลือด วิตามินบีช่วยบำรุงประสาท ป้องกันโรคเหน็บชา รักษาอาการนอนไม่หลับ และอาการบวมก่อนมีประจำเดือน
ประโยชน์ของงาในด้านความงาม
บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ เพราะงาอุดมไปด้วยวิตามินบีและไอโอดีนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม และทำให้เส้นผมแข็งแรงสุขภาพดี
เพิ่มความนุ่มนวลให้แก่ผิวแห้งกร้าน กรดไขมันไม่อิ่มตัวนั้นช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื่น ผุดผ่อง นุ่มนวล
แร่สังกะสี ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวหนังตามธรรมชาติ
สูตรบำรุงหนังศีรษะด้วยน้ำมันงา
ส่วนผสม
น้ำมันงา 1-2 หยด
วิธีทำ
ทุกครั้งหลังสระผม ซับผมให้พอหมาด ชโลมผมด้วยน้ำมันงา โดยหยดลงบนฝ่ามือและลูบตั้งแต่บริเวณหนังศีรษะลงมาจนจรดปลายผม
สรรพคุณ
น้ำมันงาช่วยบำรุงหนังศีรษะและคืนความชุ่มชื้นให้แก่หนังศีรษะที่แหงลอก กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ ทำให้ผมเงางามดกดำ และช่วยชะลอการเกิดผมหงอกก่อนวัยได้อีกด้วย

เส้นผมจัดทรงง่ายด้วยส้มป่อย
    ส้มป่อย เป็นชื่อไม้เลื้อยชนิดหนึ่ง ซึ่งถือเป็นสมุนไพรตำรับโบราณที่ช่วยในการดูแลเส้นผมให้มีสุขภาพดี และช่วยบำรุงผิวพรรณให้ขาวนวล
สารสำคัญในส้มป่อย
    ส้มป่อย มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Acacia rogata Mcrr / Aconcinna (Willd) DC. ในฝักส้มป่อยมีสาระสำคัญคือสารซาโปนิน อะคาซินินเอ บี ซี ดี และอี เมื่อผสมกับน้ำจะเกิดเป็นฟองคล้ายฟองสบู่ นอกจากนี้ยังมีสารแทนนิน และกรดอินทรีย์ เช่น กรดมาลิก
ประโยชน์จากสัมป่อย
    สามารถนำทุกส่วนของส้มป่อยมาใช้ประกอบเป็นยาได้ ในตำรับแพทย์แผนไทยโบราณ ใช้ฝักส้มป่อยมาทำเป็นยาสระผม เพื่อชะล้างสิ่งสกปรก และช่วยบำรุงเส้นผมให้เงางาม นอกจากนี้ยังมีการนำใบสดและฝักมาต้มน้ำอาบ เนื่องจากส้มป่อยมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ จึงช่วยขจัดสิ่งสกปรกและช่วยรักษาผิวพรรณ ลดอาการผดผื่นบนผิวหนัง รักษาโรคผิวหนัง ช่วยเพิ่มความต้านทานแก่ผิว
ส่วนใบอ่อนและยอดของส้มป่อย สามารถนำมาประกอบอาหารได้ เช่น ใส่ในแกงส้ม ต้มยำ เพื่อเพิ่มความเปรี้ยว นำมาลวกกินกับน้ำพริก (ภาคเหนือและภาคอีสารนิยมรับประทานยอดอ่อนจากส้มป่อยกันเป็นส่วนใหญ่) ช่วยเจริญอาหาร และมีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ แก้โรคเกี่ยวกับตา ขับเสมหะ ขับระดู ช่วยฟอกเลือด แก้โรคบิด
สูตรยาสระผมจากส้มป่อย
ส่วนผสม
ฝักส้มป่อยแก่และแห้ง  5-6 ฝัก
น้ำเปล่า 1 ลิตร
วิธีทำ
    นำฝักส้มป่อยมาล้างให้สะอาด หักเป็นท่อนเล็กๆ ใส่ลงในน้ำที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน และใช้มือตีน้ำจนเกิดฟอง ใช้ผ้าขาวบางกรองเอาเฉพาะน้ำมาใช้แทนยาสระผม สระทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออก ส่วนน้ำ ที่เหลือสามารถเก็บใส่ขวดแล้วนำมาใช้แทนแชมพูสระผมได้ประจำ
สรรพคุณของส้มป่อยดูแลผม
    ส้มป่อยมีสารซาโปนิน ซึ่งช่วยชะล้างความสกปรกบนหนังศีรษะบำรุงเส้นผมให้เป็นประกายเงางาม ทำให้ผมดำ นุ่มลื่น จัดทรงง่าย ลังช่วยขจัดรังแค ลดอาการคันหนังศีรษะ ป้องกันผมหงอกก่อนวัย

ผมสวยด้วยดอกอัญชัน
    อัญชัน เป็นพืชที่มีสีม่วงอมน้ำเงิน จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้คนโบราณนำดอกอัญชันมาบดแล้วเขียนคิ้วให้แก่เด็กแรกเกิด เพราะเชื่อว่าจะทำให้เด็กมีคิ้วดกดำ และเรียงตัวสวยงามเหมือนสีดอกอัญชัน
สารสำคัญและประโยชน์จากอัญชัน
    อัญชัน เป็นพืชเถาไม้เลื้อย มีขนาดเล็กจนถึงปานกลาง (มีชื่อสามัญว่า Butterfly pea หรือ Blue pea) อัญชันมีดอกหลายสีขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ เช่น สีน้ำเงินแกมขาว สีเหลือง และสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งพบมากในเมืองไทย
    ดอกอัญชันสีน้ำเงินเข้มนั้น มีสาระสำคัญจำพวกแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ งานวิจัยพบว่าผักผลไม้ที่มีสีม่วงน้ำเงินจะมีสารเพโนลิก และแอนโธไซยานิน ที่มีคุณสมบัติช่วยชะลอความแก่ และล้างสารพิษในร่างกายของเรา ช่วยบำรุงสมอง บำรุงสายตา
    รากอัญชันยังมีส่วนประกอบของสารแทนนิน ในตำรับยาแผนโบราณใช้รากช่วยขับปัสสาวะ แก้อาการปัสสาวะอักเสบ อาการเกี่ยวกับท่อปัสสาวะและไช้เป็นยาระบายอ่อนๆ นอกจากนี้พบว่า ในประเทศฟิลิปปินส์ใช้ใบอัญชันเพื่อรักษาอาการปวดได้ด้วย
    อัญชัน เป็นพืชที่ให้สีผสมอาหารตามธรรมชาติ โดยให้สีม่วง และ น้ำเงิน เพิ่มความสวยงามให้แก่อาหาร และยังมีการนำดอกอัญชันมาทอดเป็นอาหารคาว หรือนำดอกมาคั้นเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือนำมาเป็นส่วนผสมในแชมพูและครีมนวดผม เพราะดอกอัญชันช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้มีเลือดไปหล่อเลี้ยงบริเวณหนังศีรษะ จึงเพิ่มความดกดำและกระตุ้นให้เส้นผมงอกยาวได้เร็วขึ้น
สูตรหมักผมจากดอกอัญชัน
ส่วนผสม
ดอกอัญชัน 7-8 ดอก
น้ำเปล่า 1 ลิตร
วิธีทำ
    เลือกเอาเฉพาะกลีบดอกอัญชันใส่ลงในเครื่องปั่นพร้อมด้วยน้ำเปล่าปั่นจนละเอียดเข้ากันได้ดี กรองโดยใช้ผ้าขาวบางแยกเอากากออกให้เหลือเพียงแต่น้ำ นำน้ำอัญชันที่ได้มาหมักผมทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
สรรพคุณของสูตรจากอัญชันนี้คือ
    อัญชันช่วยให้ผมดกดำ นุ่มสลวยเป็นเงางาม ช่วยบำรุงหนังศีรษะและรากผมให้แข็งแรง ป้องกันผมหงอกก่อนวัย