ผมแห้งกรอบ ผมบาง ผมขาดร่วง
ต้องวิตามินอีจากอะโวคาโด
ผลไม้เปลือกแข็ง รูปลักษณ์ภายนอกน่าเกลียด ซึ่งแตกต่างจากเนื้อในที่ดูดี
ผลไม้ที่ว่านั้นคือ อะโวคาโดกลับเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ
แม้แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจยังแนะนำให้รับประทานอะโวคาโดวันละ 1 ผล เพื่อสุขภาพที่ดี
อะโวคาโดเป็นผลไม้พื้นเมืองในแถบตอนกลางและตอนใต้ของทวีปอเมริกา
มีลักษณะเปลือกหนาขรุขระ มีสีเขียวเข้มแกมน้ำตาล แต่เนื้อภายในนิ่มมีสีเขียวอ่อน
อุดมด้วยสารอาหารที่สำคัญ ได้แก่ วิตามินอี เอ บีรวม กรดโฟลิก โพแทสเซียม
เส้นใยอาหาร กรดไขมันไม่อิ่มตัว กรดโอเลอิก (Oleic acid)
อะโวคาโดกำลังได้รับความสนใจจากแพทย์และนักโภชนาการ
เนื่องจากอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
กรดโอเลอิกช่วยลดระดบคอเลสเตอรอลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ
โพแทสเซียมช่วยลดระดับความดันโลหิตสูง ป้องกันโรคหัวใจ
สถาบันวิจัยอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ( The U.S. Food and Drug Association) แนะนำให้รับประทานอะโวคาโด
1 ถ้วยต่อวัน จะได้รับกรดโฟลิกซึ่งดีต่อสุขภาพหัวใจปริมาณที่เพียงพอ
ส่วนด้านความสวยงามมีหลักฐานอ้างว่า
ผู้หญิงชาวจาไมก้าใช้ผลอะโวคาโดทาตัวเพื่อป้องกันผิวแห้งกร้าน
ส่วนผู้หญิงชาวอินคาใช้เนื้ออะโวคาโดหมักผมเพื่อป้องกันผมแห้งเสียจากแสงแดด
วันนี้ก็เลยมีการหมักผมจาก
อะโวคาโดมาฝาก ซึ่งก็มีส่วนผสมดังต่อไปนี้
อะโวคาโด ครึ่งผล
ไข่แดง 1 ฟอง
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนชา
วิธีทำสูตรหมักผมจากอะโวคาโด
ปอกเปลือกอะโวคาโดออกแล้วผ่าครึ่งนำใส่ในชาม เทไข่แดงและน้ำมันมะกอกลงไป
บดให้เข้ากันหรือใส่ในเครื่องปั่น ปั่นจนให้เข้ากันดี ก่อนสระผมนำส่วนผสมมาหมักผม
ใช้หมวกคลุมผมทิ้งไว้ 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง
ล้างออกด้วยน้ำอุ่นและสระผมด้วยแชมพูตามปกติ
สรรพคุณของสูตรหมักผมจากอะโวคาโด
อะโวคาโดมีวิตามินอี ที่ช่วยบำรุงผมแห้งเสีย ผมแห้งกรอบ ขาดน้ำหนัก
ให้กลับมามีสุขภาพดี และช่วยให้ผมนุ่มลื่นเป็นประกายเงางาม
ผลข้างเคียงจากการใช้สูตรหมักผมจากอะโวคาโด
อะโวคาโดมีเอนไซม์ที่เรียกว่าซิตินาซิส (Chitinases) ซึ่งอาจจะทำให้ผู้บริโภคบางรายแพ้สารนี้ได้
โดยรวมไม่มีผลร้ายต่อสุขภาพร่างกาย ยกเว้นแต่ผลอะโวคาโดมีแคลอรีและไขมันสูง
หากรับประทานมากเกินไปอาจจะเพิ่มน้ำหนักให้แก่ผู้บริโภคได้
คนที่มี ผมบาง ผมไม่ดกดำ ผมร่วง ลองใช้สูตรนี้ดูเพื่อทำให้ผมของคุณแข็งแรง
สุขภาพดี