ผมร่วง ผมบาง ที่เกิดเฉพาะส่วนบนหนังศีรษะของเรา ที่มีลักษณะเฉพาะ หรือ เรียกว่า pattern ผลการศึกษาเราพบว่าชายและหญิงจะมีฮอร์โมนที่สร้างจากต่อมหมวกไต เช่น ฮอร์โมนTestosterone และ dihydrotestosterone, DHT ฮอร์โมนจะกระตุ้นขนรักแร้ ขนบริเวณหัวเหน่าและเครา ให้เปลี่ยนเป็น เส้นผม หนาดำ หยาบ และยาวขึ้น ฮอร์โมนช่วยกระตุ้นการสร้างอสุจิ ฮอร์โมนช่วยส่งเสริมเรื่องของขนาดอวัยวะเพศ, ฮอร์โมนช่วยให้เสียงมีความเปลี่ยนแปลง,ฮอร์โมนช่วยในเรื่องของความรู้สึกทางเพศ และฮอร์โมนยังช่วยเร่งให้มีการผลัดเส้นผมในบริเวณเหนือหน้าผาก และบริเวณกลางกระหม่อมเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยอายุเส้นผมระยะเจริญสั้นลง ผมจึง หลุด ร่วงก่อนกำหนด ส่วนเส้นผมใหม่ที่ขึ้นแทนเส้นจะเล็กและสั้นลงตามลำดับ เพราะขนาดรากผมเล็กลงและฝ่อไปในที่สุด
Miniaturization of the Hair Follicle in Hair Loss
ผมบาง ผมร่วง แบบพันธุกรรมนี้เกิดจากปัจจัย ต่าง ๆเช่น
พันธุกรรมซึ่งถ่ายทอดเป็นยีนเด่น ทำให้ผมมีการตอบสนองต่อฮอร์โมนชายเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นและอายุที่เพิ่มมากขึ้น พันธุกรรมอาจเป็นตัวกำหนดลักษณะ เนื้อเยื่อและเอนไซม์ของต่อมขน พบว่ารากผมบริเวณ outer root sheath และเซลไพโบรบลาส ในบริเวณต่อขนจะมี androgenic receptor รากผมบริเวณกลางกระหม่อมและเหนือหน้าผาก พบมีจำนวน receptor สูงกว่าบริเวณท้ายทอยถึง 1.5 เท่า และ receptor ในหญิงพบมีน้อยกว่าชาย พบเพียงร้อยละ 40 ของในชาย ดังนั้นเส้นผมของชายในบริเวณดังกล่าวจะตอบสนองต่อฮอร์โมน DHT มากกว่า และพบว่ารากผมบริเวณดังกล่าวจะมีเอนไซม์ type 2-5 reductase สูงขึ้นด้วย เอนไซม์ชนิดนี้เปลี่ยน testosterone เป็น DHT ซึ่งมีฤทธิ์ฮอร์โมนเพศชายสูงกว่า จึงยิ่งกระตุ้นให้อายุของต่อมผมสั้นลง ในหญิงเส้นผมบริเวณดังกล่าวก็มี receptor สูงเช่นกัน แต่กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับชาย เพราะในหญิงมีระดับเอนไซม์ cytochrome P450 aromatase สูงกว่าชายถึงร้อยละ 80 เอนไซม์นี้สามารถเปลี่ยน testosterone เป็นฮอร์โมนหญิง estradiole ซึ่งช่วยต่อต้านฤทธิ์ของฮอร์โมนชายได้ ส่วนในชายศีรษะล้านตรวจไม่พบเอนไซม์นี้เลย
Miniaturization of the Hair Follicle in Hair Loss
ผมบาง ผมร่วง แบบพันธุกรรมนี้เกิดจากปัจจัย ต่าง ๆเช่น
พันธุกรรมซึ่งถ่ายทอดเป็นยีนเด่น ทำให้ผมมีการตอบสนองต่อฮอร์โมนชายเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นและอายุที่เพิ่มมากขึ้น พันธุกรรมอาจเป็นตัวกำหนดลักษณะ เนื้อเยื่อและเอนไซม์ของต่อมขน พบว่ารากผมบริเวณ outer root sheath และเซลไพโบรบลาส ในบริเวณต่อขนจะมี androgenic receptor รากผมบริเวณกลางกระหม่อมและเหนือหน้าผาก พบมีจำนวน receptor สูงกว่าบริเวณท้ายทอยถึง 1.5 เท่า และ receptor ในหญิงพบมีน้อยกว่าชาย พบเพียงร้อยละ 40 ของในชาย ดังนั้นเส้นผมของชายในบริเวณดังกล่าวจะตอบสนองต่อฮอร์โมน DHT มากกว่า และพบว่ารากผมบริเวณดังกล่าวจะมีเอนไซม์ type 2-5 reductase สูงขึ้นด้วย เอนไซม์ชนิดนี้เปลี่ยน testosterone เป็น DHT ซึ่งมีฤทธิ์ฮอร์โมนเพศชายสูงกว่า จึงยิ่งกระตุ้นให้อายุของต่อมผมสั้นลง ในหญิงเส้นผมบริเวณดังกล่าวก็มี receptor สูงเช่นกัน แต่กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับชาย เพราะในหญิงมีระดับเอนไซม์ cytochrome P450 aromatase สูงกว่าชายถึงร้อยละ 80 เอนไซม์นี้สามารถเปลี่ยน testosterone เป็นฮอร์โมนหญิง estradiole ซึ่งช่วยต่อต้านฤทธิ์ของฮอร์โมนชายได้ ส่วนในชายศีรษะล้านตรวจไม่พบเอนไซม์นี้เลย